6 ขั้นตอน ในการเลือกบริษัทขนย้ายบ้าน

นับเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร สำหรับการเลือกจ้างบริษัทหนึ่งมาช่วยคุณขนย้ายบ้าน เพราะคุณอาจจะไม่มั่นใจว่า พนักงานขนย้ายจะทำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดของคุณเสียหาย วอลเปเปอร์ฉีกขาด หรือ จานชามแตกหัก ระหว่างขั้นตอนการขนย้าย บางบริษัทอาจมาถึงหน้างานล่าช้า แต่เรียกเก็บเงินเกินเวลาทำงาน ก็เป็นได้

วันที่ขนย้ายบ้านก็เป็นวันที่วุ่นวาย ยุ่งยากมากพออยู่แล้ว คุณไม่ควรจะต้องมาเจอเรื่องให้เครียดเพิ่มอีก เพราะฉะนั้นคุณควรจะเลือกบริษัทขนย้ายบ้านที่มีศักยภาพและตรงต่อเวลา เพื่อลดโอกาสในการเกิดการทะเลาะวิวาทระหว่างคุณกับพนักงานขนย้าย

เรามี 6 ขั้นตอนในการเลือกบริษัทขนย้ายบ้านมาฝาก

1. หาแหล่งอ้างอิง

    ลองเสิชหาความน่าเชื่อถือ และการให้บริการของบริษัทขนย้ายบ้านต่างๆจากอินเทอร์เน็ต หรือสอบถามจากเพื่อนๆคุณ ญาติ หรือเพื่อนร่วมงาน ให้พวกเขาแนะนำบริษัทขนย้ายบ้านที่รู้จักหรือเคยใช้บริการ ถ้าคุณทำงานกับนายหน้าหาที่อยู่อาศัย ถามนายหน้าก็ได้ พวกเขาจะรู้ดีและช่วยคุณได้ และคุณยังสามารถขอใบเสนอราคาจากบริษัทขนย้ายหลายๆที่มาเปรียบเทียบราคาเพื่อประกอบการตัดสินใจได้อีกด้วย (ขอใบเสนอราคากับ Thai Movers คลิกที่นี่)

2.  เปรียบเทียบราคา

     อย่าชำระเงินทันทีที่คุณได้รับใบประเมินราคามาจากบริษัทขนย้ายบ้าน แต่ให้สอบถามราคาอย่างน้อย 3 บริษัท เพราะไม่มีบริษัทไหนสามารถประเมินราคาได้ถูกต้อง ถ้ายังไม่เห็นข้าวของทั้งหมดที่คุณต้องการขนย้าย

3.  ระวังค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ

     ตรวจดูการประเมินราคาแต่ละรายการให้ถ้วนถี่ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ จะไม่ถามว่าคุณมีเงินสดจ่ายหรือไม่ก่อนการขนย้ายบ้าน แต่ถ้าเป็นบริษัทที่ต้องการเงินไปหมุน อาจจะถาม ในระหว่างการประเมินราคา คุณสามารถดูได้ว่าบริษัทไหนเป็นมืออาชีพ ถ้าบริษัทไหนส่งใบประเมินราคาล่าช้า หรือไม่แน่ใจในความสามารถของพวกเขา หรือไม่สามารถตอบคำถามของคุณได้ ให้คุณหาบริษัทอื่นแทน และระวังด้วยว่าบางบริษัทจะคิดค่าบริการค่าเช่ารถเพิ่มด้วย ส่วนบริษัทที่เป็นมืออาชีพ เขามีรถของบริษํทอยู่แล้ว ไม่ต้องจ้างเพิ่ม

4.  ตรวจสอบว่าบริษัทขนย้ายบ้านมีใบอนุญาติจดทะเบียนเปิดบริษัท

     โดยคุณสามารถตรวจสอบบริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้อง ได้ที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยมีขั้นตอนการค้นหาจาก คลังข้อมูลธุรกิจ ดังนี้ เลือกหัวข้อคลังข้อมูลธุรกิจ ที่ช่องบริการออนไลน์ และ Login โดย
      1.  กรณีเป็นสมาชิกให้ระบุ "ชื่อผู้ใช้” และ "รหัสผ่าน” เพื่อเข้าสู่ระบบ (หากไม่ได้เป็นสมัครสมาชิกให้            สมัครสมาชิกก่อน)
      2.  เลือก "ข้อมูลนิติบุคคล”
      3.  ค้นหาโดยเลือกจาก เลขทะเบียนนิติบุคคล หรือ ชื่อนิติบุคคล คลิก "ค้นหา” จะปรากฏข้อมูลของ นิติบุคคลที่ต้องการค้นหา ให้คลิกที่เลขทะเบียนของนิติบุคคล จะปรากฏหน้าข้อมูลทั่วไป ซึ่งจะแสดง ข้อความว่า "นิติบุคคลไม่มีสานักงานแห่งใหญ่ ณ ที่ตั้งตามที่จดทะเบียนไว้” อยู่ในรายการข้อควรทราบ

5.  ดูความเป็นมืออาชีพจากพันธมิตรที่บริษัทขนย้ายเป็นสมาชิก

6. ตรวจสอบที่อยู่ของบริษัท